แสดงกระทู้
1
ถามตอบปัญหา / ข้อแนะนำสำหรับผู้ใช้งาน XV 2013
« เมื่อ: August 12, 2020, 12:10:22 »
ผมขอแชร์ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน Subaru XV นะครับ มิใช่มาประจานเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงของบริษัทฯแต่อย่างใด
ก่อนอื่นก็ขอยืนยันเลยว่า เป็นรถที่ประสิทธิภาพดีมากครับ สมกับชื่อ Subaru
แต่
มีปัญหาที่ประสบด้วยตัวเองจากการใช้งาน คือ รถผมวิ่งได้ประมาณ 130,000 กม ส่วนมากจอดครับไม่ค่อยได้วิ่ง และผมติดเครื่อง OBD เพื่อให้แจ้งเตือนอุณหภูมิไว้ด้วย
1 หม้อน้ำรั่ว ที่ฝาครอบด้านบนตรงส่วนที่เป็นพลาสติกที่ติดกับโลหะ โดยที่ผมคิดว่าพัดลมหม้อน้ำเสียไม่ได้จอดดู โดยวันนั้น OBD ส่งสัญญาณเตือนว่าเครื่องร้อน แต่พอรถออกวิ่งอุณหภูมิก็ลดลง
จึงไม่ได้จอดรถดู(ซึ่งผมก็ทำไม่ถูก)ผมวิ่งจากบางพระ เอารถมาเข้าอู่ ที่ สุคนธสวัสดิ์ โดยที่รถวิ่งปกติ
2 เหตุเกิดเมื่อวานนี้เอง คือ ไฟเตือน น้ำมันเครื่อง ติด ผมก็เลยแวะปั้มน้ำ จอดรถ แล้วดับเครื่อง ทิ้งไว้สักครู่ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้งหนึ่ง ไฟเตือนก็ไม่ดับ เลยติดต่อช่างที่อู่ ช่างตอบว่า น้ำมันเครื่องขาด(ทั้งๆที่ผมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไปไม่ถึงสองสัปดาห์) พอวัดดู น้ำมันเครื่องก็ขาดจริงๆ แต่ไม่มีรอยน้ำมันเครื่องหยด ที่โรงจอดรถที่บ้านเลยนะครับ ช่างบอกว่าเป็นอาการกินน้ำมันเครื่องของรถรุ่นนี้ ผมเลยเติมน้ำมันเครื่องไปหนึ่งลิตร แล้วเอารถมาเข้าอู่ที่สุคนธสวัสดิ์เลย ช่างบอกต้องยกเครื่อง (แต่รถวิ่งกลับมาปกตินะครับไม่มีอาการผิดปกติ)
นี่คือประสบการณ์จากการใช้ของผมเอง จึงเอามาเล่าสู่กันฟัง
1 ติดเครื่อง OBD ก็มีประโยชน์ครับ รุ่นที่ผมติดมีน้องเขาแนะนำ สามารถลบโค้ทที่ขึ้นหน้าจอได้ครับ เช่น ไฟเตือนรูป เครื่องยนต์ ในกรณีที่รถไม่มีอาการผิดปกติ ก็ใช้ลบได้ครับ
2 หม้อน้ำควรหมันตรวจสอบ เคยมีช่างคนหนึ่งแนะนำว่า หม้อน้ำรถรุ่นใหม่ๆซึ่งมีฝาครอบเป็นพลาสติก ถ้าวิ่งได้ระยะทางประมาณ 200,000 กม ควรเปลี่ยนโดยที่ของผมช่างเปลี่ยนส่วนที่เป็นพลาสติกเป็นอลูมิเนียมครับ
3 หมั่นเช็คน้ำมันเครื่อง ถ้าพบว่ามีอาการกินน้ำมันเครื่องควรรีบนำรถเข้าอู่ครับ
4 อีกเรื่องหนึ่งคือ อุณหภูมิเครื่องยนต์ของรถยนต์รุ่นนี้สูงมากครับ
ขอบคุณครับ
ก่อนอื่นก็ขอยืนยันเลยว่า เป็นรถที่ประสิทธิภาพดีมากครับ สมกับชื่อ Subaru
แต่
มีปัญหาที่ประสบด้วยตัวเองจากการใช้งาน คือ รถผมวิ่งได้ประมาณ 130,000 กม ส่วนมากจอดครับไม่ค่อยได้วิ่ง และผมติดเครื่อง OBD เพื่อให้แจ้งเตือนอุณหภูมิไว้ด้วย
1 หม้อน้ำรั่ว ที่ฝาครอบด้านบนตรงส่วนที่เป็นพลาสติกที่ติดกับโลหะ โดยที่ผมคิดว่าพัดลมหม้อน้ำเสียไม่ได้จอดดู โดยวันนั้น OBD ส่งสัญญาณเตือนว่าเครื่องร้อน แต่พอรถออกวิ่งอุณหภูมิก็ลดลง
จึงไม่ได้จอดรถดู(ซึ่งผมก็ทำไม่ถูก)ผมวิ่งจากบางพระ เอารถมาเข้าอู่ ที่ สุคนธสวัสดิ์ โดยที่รถวิ่งปกติ
2 เหตุเกิดเมื่อวานนี้เอง คือ ไฟเตือน น้ำมันเครื่อง ติด ผมก็เลยแวะปั้มน้ำ จอดรถ แล้วดับเครื่อง ทิ้งไว้สักครู่ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้งหนึ่ง ไฟเตือนก็ไม่ดับ เลยติดต่อช่างที่อู่ ช่างตอบว่า น้ำมันเครื่องขาด(ทั้งๆที่ผมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไปไม่ถึงสองสัปดาห์) พอวัดดู น้ำมันเครื่องก็ขาดจริงๆ แต่ไม่มีรอยน้ำมันเครื่องหยด ที่โรงจอดรถที่บ้านเลยนะครับ ช่างบอกว่าเป็นอาการกินน้ำมันเครื่องของรถรุ่นนี้ ผมเลยเติมน้ำมันเครื่องไปหนึ่งลิตร แล้วเอารถมาเข้าอู่ที่สุคนธสวัสดิ์เลย ช่างบอกต้องยกเครื่อง (แต่รถวิ่งกลับมาปกตินะครับไม่มีอาการผิดปกติ)
นี่คือประสบการณ์จากการใช้ของผมเอง จึงเอามาเล่าสู่กันฟัง
1 ติดเครื่อง OBD ก็มีประโยชน์ครับ รุ่นที่ผมติดมีน้องเขาแนะนำ สามารถลบโค้ทที่ขึ้นหน้าจอได้ครับ เช่น ไฟเตือนรูป เครื่องยนต์ ในกรณีที่รถไม่มีอาการผิดปกติ ก็ใช้ลบได้ครับ
2 หม้อน้ำควรหมันตรวจสอบ เคยมีช่างคนหนึ่งแนะนำว่า หม้อน้ำรถรุ่นใหม่ๆซึ่งมีฝาครอบเป็นพลาสติก ถ้าวิ่งได้ระยะทางประมาณ 200,000 กม ควรเปลี่ยนโดยที่ของผมช่างเปลี่ยนส่วนที่เป็นพลาสติกเป็นอลูมิเนียมครับ
3 หมั่นเช็คน้ำมันเครื่อง ถ้าพบว่ามีอาการกินน้ำมันเครื่องควรรีบนำรถเข้าอู่ครับ
4 อีกเรื่องหนึ่งคือ อุณหภูมิเครื่องยนต์ของรถยนต์รุ่นนี้สูงมากครับ
ขอบคุณครับ