ผู้เขียน หัวข้อ: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง  (อ่าน 22542 ครั้ง)

Atto

  • ชั่วโมงขับห้าพันไมล์
  • **
  • กระทู้: 83
    • ดูรายละเอียด
จริงๆนำรถไปเช็ค40000ตั้งแต่ก่อนสงกรานต์แล้วครับ ตอนนี้ไมล์จริงไป45000แล้ว พึ่งว่างมานั่งพิมพ์เรื่องราวเล่าสู่กันฟัง

น้ำมันเครื่อง ผมอาศัยหน้าหนาๆของผมหิ้วไปเอง เปลี่ยนไปใช้0w-30ที่ซื้อหิ้วมาจากญี่ปุ่นรอบที่แล้วใช้0w-20(ยี่ห้อเดียวกัน) ช่างที่ศูนย์ดีใจหายเติมให้5ลิตรเต็มๆ จริงๆตามManualเค้าให้เติม5 US Quartsครับ ซึ่งแค่4.73ลิตร รถออกมาอืดมาก และกินน้ำมันขึ้นเล็กน้อย(0.3ลิตร/100โล)ครับ ทำให้รู้สึกว่าXVเหมาะแล้วครับกับ0w-20

น้ำมันเกียร์CVT ผมใช้ของศูนย์ ซึ่งศูนย์ใช้ของSubaruเอง(แอบดูถังมาแล้ว)ครับ ผลิตโดยIdemitsu ลิตรละ550 ออกมาเกียร์กระตุกน้อยลงช่วงออกตัว

น้ำมันเฟืองหน้า-หลัง ผมก็หิ้วไปเองรอบนี้ลองใช้Valvoline 75w-90ตัวสังเคราะห์ ก่อนหน้านี้ใช้Redline 75w-90มา20000โลครับ ถ้าไม่เตรียมไปเองที่ศูนย์ใช้ของShell Spirax SAE90 ธรรมดาๆ ผมแอบเดินไปดูที่ถัง200ลิตรที่เค้าเก็บในstock น้ำมันตัวนี้ปกติร้านอะไหล่ข้างนอกขาย90บาท ในศูนย์150

น้ำยาหม้อน้ำ ช่างแจ้งว่าหมดไว้เปลี่ยนที่50000โล

มาถึงตัวปัญหา น้ำมันเบรค ตอนนี้ศูนย์ใช้ของShell Dot3(อันนี้จำราคาไม่ได้) ส่วนน้ำมันเบรคที่ติดรถมาเป็นDot4 ผมมารู้ว่าใช้Dot3เอาตอนชำระเงินแล้ว ไม่งั้นก็จะไม่ให้เปลี่ยน ถามช่างๆบอกว่าผู้บริหารให้ใช้Dot3ทั้งหมด(ไม่รู้คิดได้ยังไง) ใช้น้ำมันเบรคในการถ่ายจริงๆไปครึ่งลิตรนิดๆ(ถ่ายรึเติมเนี่ย)แต่คิดราคา1ลิตร ที่แย่สุดๆคือขับออกมาแป้นเบรคต่ำลงไปพอสมควร คิดแล้วว่าช่างไล่ลมมาไม่ดีแน่ๆ ตอนแรกกะทนใช้ไปสักหมื่นโล รอบต่อไปค่อยถ่ายออก ทนไม่ไหวครับ วันรุ่งขึ้นขับเข้าร้านตั้งศูนย์ที่รู้จักกัน เปลี่ยนเป็นน้ำมันเบรคTRW Dot5.1 ESP แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ตอนช่างถ่ายไล่น้ำมันเบรคออก ล้อหน้าซ้ายมีลมในระบบที่ศูนย์ไล่ลมมาไม่หมด :darnhot: ถ่ายไล่ออกไป3ลิตรน้ำมันเบรคDot7(3+4)ที่ผสมกันในรถอยู่ถึงออกหมด

น้ำมันพาวเวอร์ ไม่ได้ถ่ายครับ เพราะเพิ่งถ่ายพร้อมเคลมเปลี่ยนสายพาวเวอร์ไปตอน33000โล

คิดย้อนหลังก็พยายามมองข้ามๆเรื่องไม่ดีไป เพราะช่างกับพนักงานในศูนย์ที่ผมไปมีService Mind ถือเป็นประสบการณ์เล่าสู่กันฟังละกันครับ  :respected:




veerawat007

  • มือใหม่หัดขับ
  • *
  • กระทู้: 45
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: May 02, 2015, 22:07:22 »
ปัญหาเยอะเหมือนกันนะครับ คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถจะซื้อ XV ใช้ได้มั๋ยครับ  กำลังดู ๆ อยู่ครับ
และการเปลี่ยนถ่ายของเหลวพวกนี้ จะเร็วกว่าพวกรถเก๋งทั่วไปใช่มั๋ยครับ   :-X

toppy

  • ชั่วโมงขับสองหมื่นไมล์
  • ****
  • กระทู้: 312
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: May 02, 2015, 22:23:57 »
อยากทราบสเปคน้ำมันเบรคว่าตามสเปคต้องเป็นเกรดอะไรครับ

rafarel

  • ชั่วโมงขับสองหมื่นไมล์
  • ****
  • กระทู้: 362
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: May 02, 2015, 23:16:17 »
ขอสาขาของ 0 ดังกล่าวด้วยครับ   ^_^

ผมเห็นโปรถ่ายของเหลวใน fb  ที่แอดมินเอามาโพส เค้าว่าใช้ dot 4 อะครับ น้ำมันเบรค   :respected:

ส่วน น้ำมันเฟืองท้าย ผมเชคร้านนอก ลิตรละ 1300 ถ้าเอาโปรของที่ 0 เสนอ ผมว่า โปร 10000 กิโลคุ้มอะครับ ถ้ายังต้องใช้ของเหลวราคาจาก 0 นะครับ

ก่อน 45000 ผมใช้ 5w-30 หลังจากนั้นใช้ 0w-20 มาจนจะ ุ61000 ละครับ ลื่นกว่าเห็นได้ชัด   :-\

https://www.facebook.com/SubaruXVThailand?fref=ts


Atto

  • ชั่วโมงขับห้าพันไมล์
  • **
  • กระทู้: 83
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: May 02, 2015, 23:38:38 »
อยากทราบสเปคน้ำมันเบรคว่าตามสเปคต้องเป็นเกรดอะไรครับ

ตามManualใช้ได้ทั้งDot3และ4ครับ แต่ห้ามผสมข้ามยี่ห้อ และการผสมข้ามDotแม้จะยี่ห้อเดียวกันก็ควรหลีกเลี่ยง(แปลตรงตามคู่มือเลยครับ) และShellไม่ได้ผลิตน้ำมันเบรคOemให้ซูบารุแน่ๆครับ น้ำมันเบรคโรงงานมาเป็นDot4จากที่ถามช่างที่ศูนย์(ยืนยัน)และอ่านจากเวบนอก รถรุ่นใหม่ที่มีระบบABS กับESP(ระบบช่วยการทรงตัว)ไม่มีใครบ้าจี้ใช้Dot3หรอกครับ ความร้อนในระบบสูงกว่ารถรุ่นเก่าๆเยอะ และตามตารางเซอร์วิสของซูบารุไทยเองให้เปลี่ยนน้ำมันเบรคทุก40000โล น้ำมันเบรคDot3มีอายุการใช้งานแค่1ปี(20000โล)ก็ควรจะถ่ายทิ้งแล้วครับ เพราะรวมกับความชื้นง่ายกว่าDot4ที่ปกติใช้ได้2ปี(40000โล) ดูขัดๆกันมั้ยครับ

อ้างอิง http://techinfo.subaru.com/proxy/69529/pdf/ownerManual/069529_2013_XVCrosstrek/MSA5M1317ASTIS_18.pdf  หัวข้อ11-16ครับ

อายุน้ำมันเบรค https://aacandtrw.wordpress.com/2013/06/05/น้ำมันเบรกชื้น-อันตรายท/

Atto

  • ชั่วโมงขับห้าพันไมล์
  • **
  • กระทู้: 83
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: May 02, 2015, 23:41:28 »
ขอสาขาของ 0 ดังกล่าวด้วยครับ   ^_^

ผมเห็นโปรถ่ายของเหลวใน fb  ที่แอดมินเอามาโพส เค้าว่าใช้ dot 4 อะครับ น้ำมันเบรค   :respected:

ส่วน น้ำมันเฟืองท้าย ผมเชคร้านนอก ลิตรละ 1300 ถ้าเอาโปรของที่ 0 เสนอ ผมว่า โปร 10000 กิโลคุ้มอะครับ ถ้ายังต้องใช้ของเหลวราคาจาก 0 นะครับ

ก่อน 45000 ผมใช้ 5w-30 หลังจากนั้นใช้ 0w-20 มาจนจะ ุ61000 ละครับ ลื่นกว่าเห็นได้ชัด   :-\

https://www.facebook.com/SubaruXVThailand?fref=ts

ถ้าเลือกใช้Motulจะได้Dot4มั้งครับ แต่ถ้าไม่แจ้งอะไรรถทุกรุ่นโดนShell Dot3หมดครับ ไม่เว้นแม้แต่รถแรง รุ่นพี่ใช้BR9เทอร์โบก็โดนมาแล้วครับ  :ปาดเหงื่อ:

ปอลอลิง ศูนย์ขอหลังไมค์ละกันครับ เดี๋ยวศูนย์ใหญ่จะไปโวยเรื่องถ่ายน้ำมันที่หิ้วไปได้ :respected:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: May 02, 2015, 23:44:19 โดย Atto »

Atto

  • ชั่วโมงขับห้าพันไมล์
  • **
  • กระทู้: 83
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: May 03, 2015, 00:04:40 »
ปัญหาเยอะเหมือนกันนะครับ คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถจะซื้อ XV ใช้ได้มั๋ยครับ  กำลังดู ๆ อยู่ครับ
และการเปลี่ยนถ่ายของเหลวพวกนี้ จะเร็วกว่าพวกรถเก๋งทั่วไปใช่มั๋ยครับ   :-X

ก็ต้องระวังนิดนึงครับ ถ้าเชื่อตามศูนย์ทั้งหมดน่าจะแย่ พยายามหาอ่านเวบเมืองนอกพวกคลับXVดูครับ หรือยึดตามUser Manualก็พอช่วยได้ จริงๆรถทุกอย่างมีปัญหาจุกจิกหมดครับแต่ยี่ห้อนี้ต้องใส่ใจนิดนึง ตั้งแต่ผมออกมามีDefectพอสมควรเลย มีทั้งที่แก้เองไปให้ศูนย์แก้(ได้บ้างไม่ได้บ้าง)

ยกตัวอย่างสักเรื่อง ตอนรถวิ่งมา1พันกว่าโล(หลังเช็คครั้งแรก)เครื่องเดินไม่เรียบ เข้าศูนย์เสียบเครื่องตรวจบอกปกติ แต่จากการขับเรารู้ว่าไม่ปกติแต่เป็นตั้งแต่ออกรึป่าวนี่ไม่ได้สังเกตุครับ พอดีผมสั่งหัวเทียนแต่งมาใส่พอดี พอถอดหัวเทียนเดิมๆมาดูมี1หัวที่บอดเหมือนมีคราบเหนียวๆดำไปเกาะที่แกนหัวเทียน ทุกวันนี้ยังงงๆเลยครับว่ามันมาได้ไง ก่อนหน้านั้นรถก็เดิมทุกอย่างไม่เคยรื้อหรือแกะอะไร ???

Ynot7

  • ชั่วโมงขับหนึ่งหมื่นไมล์
  • ***
  • กระทู้: 145
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: May 03, 2015, 03:41:13 »
ที่เมื่อก่อนคนบอกว่า ซู ไม่จุกจิก ใช้ทน ผมว่าเป็นเพราะคนใช้กันน้อยเสียงบ่นเลยไม่มี พอ xv ขายดีคนใช้เยอะ มันก็เริ่มเห็นคนมาโพสท์เยอะขึ้น บวกกับไม่ใช่รถประกอบญี่ปุ่นเหมือนเมื่อก่อนแล้วด้วย

ชักจะเป็นห่วงการเข้า 0 เหมือนกัน เพราะแกมาเซฟต้นทุนด้วยการลดสเปคน้ำมัน ผมว่าไม่ดีเลย อย่างน้ำมันเครื่องติดรถ 5w-40 ทั้งที่ในคู่มือบอก 0-20

ที่บอกว่าฟรีค่าแรง แต่ความจริงบวกค่าของไปตั้งเยอะอีก

leenawat_sri

  • ชั่วโมงขับสองหมื่นไมล์
  • ****
  • กระทู้: 490
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: May 03, 2015, 08:48:01 »
ไม่ได้จุกจิกหรอกคับ 

...เขาเรีนกใช้อย่างคนมีความรู้ :หมั่นไส้:5555


เห็นด้วยมากๆที่ว่า เชื่อ 0  ทั้งหมด 100%นี่ตาย

อย่างน้ำมันเฟืองท้าย  คิดว่า จำเป็นนะคับ เกรดสังเคราะห์ ถ้ากะใช้นานๆ

0   ใช้เกรดต่ำไป  แต่โปร motul นั่น ต่อไปคงมีให้เลือกแล้วมั้งคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: May 03, 2015, 08:53:43 โดย leenawat_sri »

leenawat_sri

  • ชั่วโมงขับสองหมื่นไมล์
  • ****
  • กระทู้: 490
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: May 03, 2015, 09:04:29 »
ที่เมื่อก่อนคนบอกว่า ซู ไม่จุกจิก ใช้ทน ผมว่าเป็นเพราะคนใช้กันน้อยเสียงบ่นเลยไม่มี พอ xv ขายดีคนใช้เยอะ มันก็เริ่มเห็นคนมาโพสท์เยอะขึ้น บวกกับไม่ใช่รถประกอบญี่ปุ่นเหมือนเมื่อก่อนแล้วด้วย

ชักจะเป็นห่วงการเข้า 0 เหมือนกัน เพราะแกมาเซฟต้นทุนด้วยการลดสเปคน้ำมัน ผมว่าไม่ดีเลย อย่างน้ำมันเครื่องติดรถ 5w-40 ทั้งที่ในคู่มือบอก 0-20

ที่บอกว่าฟรีค่าแรง แต่ความจริงบวกค่าของไปตั้งเยอะอีก

เอาน่า  เป็นทุกยี่ห้อ ทุกค่ายแหละคับ  เราศึกษาเอง แล้วเลือกผลิตภัณร์ ให้เหมาะกะพฤติกรรมการใช้เราเองดีกว่า   เดวนี้ดีคับ  มีอินเตอเนต
มีเวปบอด ให้แลกเปลี่ยนความคิดกันได้คับ :คริคริ:

ส่วนเรื่องทน  ผมว่าsubaru ไม่ใช่รถตลาด ก่อรหน้านี้คนที่ใช้ คือเลือกมาแล้ว ว่าเป็นยี่ห้อนี้  ก้อเลยเปฌนคนที่มีความรู้ในการบำรุงรักษารถ แบบคุณ Atto ถ้าบำรุงรักษาดี รถก้อทนแหละคับ  เพราะเชื่อ0 มาก 100% ไม่ได้

แต่บางคน ชินรถตลาด 0 ช่างว่าไง ทำตามหมด พฤติกรรมการดูแลรถบางทีก้อต่างกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: May 03, 2015, 09:14:09 โดย leenawat_sri »

veerawat007

  • มือใหม่หัดขับ
  • *
  • กระทู้: 45
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: May 03, 2015, 10:10:45 »
ถ้า Subaru จะขายรถในไทยให้มากขึ้นแบบคนทั่วไปก็ซื้อใช้ได้  ศูนย์ก็ต้องมีมาตรฐานมากขึ้นสำหรับลูกค้าทั่ว ๆ ไปที่มาถึงศูนย์ก็เปลี่ยนตามศูนย์บอก  หากไม่แก้ไขคนทั่วไปก็ลังเลที่จะซื้อมาใช้นะครับ เพราะคนไทยยังพิจารณาศูนย์บริการเป็นปัจจัยในการซื้อรถด้วย   ???

Ynot7

  • ชั่วโมงขับหนึ่งหมื่นไมล์
  • ***
  • กระทู้: 145
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: May 03, 2015, 10:16:31 »
คันเก่าผมก็ไม่เข้า 0 แต่คันนี้ดันมีประกันเลยต้องเข้า

มีใครแนะนอู่ซูแถวเสรีไทยได้มั่งครับ แบบเคยเข้ามาแล้วสบายใจฝากผีฝากไข้ได้

Atto

  • ชั่วโมงขับห้าพันไมล์
  • **
  • กระทู้: 83
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: May 03, 2015, 10:34:52 »
ที่เมื่อก่อนคนบอกว่า ซู ไม่จุกจิก ใช้ทน ผมว่าเป็นเพราะคนใช้กันน้อยเสียงบ่นเลยไม่มี พอ xv ขายดีคนใช้เยอะ มันก็เริ่มเห็นคนมาโพสท์เยอะขึ้น บวกกับไม่ใช่รถประกอบญี่ปุ่นเหมือนเมื่อก่อนแล้วด้วย

ชักจะเป็นห่วงการเข้า 0 เหมือนกัน เพราะแกมาเซฟต้นทุนด้วยการลดสเปคน้ำมัน ผมว่าไม่ดีเลย อย่างน้ำมันเครื่องติดรถ 5w-40 ทั้งที่ในคู่มือบอก 0-20

ที่บอกว่าฟรีค่าแรง แต่ความจริงบวกค่าของไปตั้งเยอะอีก

เอาน่า  เป็นทุกยี่ห้อ ทุกค่ายแหละคับ  เราศึกษาเอง แล้วเลือกผลิตภัณร์ ให้เหมาะกะพฤติกรรมการใช้เราเองดีกว่า   เดวนี้ดีคับ  มีอินเตอเนต
มีเวปบอด ให้แลกเปลี่ยนความคิดกันได้คับ :คริคริ:

ส่วนเรื่องทน  ผมว่าsubaru ไม่ใช่รถตลาด ก่อรหน้านี้คนที่ใช้ คือเลือกมาแล้ว ว่าเป็นยี่ห้อนี้  ก้อเลยเปฌนคนที่มีความรู้ในการบำรุงรักษารถ แบบคุณ Atto ถ้าบำรุงรักษาดี รถก้อทนแหละคับ  เพราะเชื่อ0 มาก 100% ไม่ได้

แต่บางคน ชินรถตลาด 0 ช่างว่าไง ทำตามหมด พฤติกรรมการดูแลรถบางทีก้อต่างกัน

 :อายจัง: แหะๆ ผมติดนิสัยตั้งกะทำรถซิ่งน่ะครับ ชอบอ่านชอบค้นหาน้ำมัน น้ำยาต่างๆมาใช้เองครับ เคยเชื่อคนอื่นจนของแทบพังก็มี สมัยก่อนผมใช้2JZลงในเอ31 สมัยนั้นวางไม่น่าเกินคันที่4-5ในประเทศKnow howต่างๆก็เลยไม่ค่อยมี พอดีผมจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์พอรู้มาว่าเกียร์ตัวนี้GetragผลิตรหัสV160 มันใช้น้ำมันเกียร์ออโต้(ATF)หรือน้ำมันมันเองคือV160 Fluidของโตโยต้าที่Essoผลิตให้ ถามที่อู่เค้าก็บอกใช้น้ำมันเกียร์ธรรมดาที่ดีๆก็พอแล้ว(ลากกกกกกเสียงยาวด้วย) ......ทำให้ผมสับสน แต่คิดว่าเค้าทำรถมานานน่าจะมีประสบการณ์มากกว่าเรา สุดท้ายเชื่ออู่เอาน้ำมันเกียร์ธรรมดา(จำยี่ห้อไม่ได้ ซื้อที่เฮียปุ้ยโรตารี่)ลิตรละ1000กว่าบาทใส่เข้าไป ขับๆไปทำไมชักแปลกๆ เกียร์รุ่นนี้ปกติเข้าเกียร์จะนิ่มมากและระยะจะสั้นกระชับ ยิ่งนานวันใช้ไปยิ่งเข้าเกียร์ลำบาก สุดท้ายอ่านเจอในคลับSupra MK4ว่าเกียร์V160ถ้าใส่น้ำมันเกียร์ธรรมดา ตัวเฟืองเกียร์มันไม่พังแต่จะไปพังที่ชุดSynchroทำให้เกียร์เข้าลำบากและไปนานมันจะหอน และสุดท้ายจะพังจนเข้าเกียร์ไม่ได้อีกเลย  O0 ดีที่สมัยนั้นเกียร์รุ่นยังพอหาได้ไม่แพงมาก ว่าแต่เล่ามายาวไม่ได้เกี่ยวกะXVเลย ::D


Atto

  • ชั่วโมงขับห้าพันไมล์
  • **
  • กระทู้: 83
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: May 03, 2015, 10:53:09 »
ถ้า Subaru จะขายรถในไทยให้มากขึ้นแบบคนทั่วไปก็ซื้อใช้ได้  ศูนย์ก็ต้องมีมาตรฐานมากขึ้นสำหรับลูกค้าทั่ว ๆ ไปที่มาถึงศูนย์ก็เปลี่ยนตามศูนย์บอก  หากไม่แก้ไขคนทั่วไปก็ลังเลที่จะซื้อมาใช้นะครับ เพราะคนไทยยังพิจารณาศูนย์บริการเป็นปัจจัยในการซื้อรถด้วย   ???

ถูกต้องครับผม  :respected: เรื่องบางเรื่องศูนย์พยายามจะsave costมากเกินไป อย่างน้ำมันเฟืองท้ายผมว่าใช้สังเคราะห์ดีหน่อย แล้วไปถ่ายที่40000โลเลยน่าจะดีกว่าถ่ายทุก10000(หัวน๊อตถ่ายไม่เยินเพราะหมุนเข้าออกๆด้วย) หลายๆคันที่ใช้น้ำมันศูนย์เฟืองท้ายก็หอนไปแล้ว แต่คนที่เอาน้ำมันไปเองยังไม่เห็นจะหอน ไม่ได้ฟันธงว่าพังเพราะน้ำมันศูนย์นะครับแต่มันชวนให้คิด

อย่างเรื่องที่ศูนย์ไม่ให้ใช้น้ำมัน0w-20ก็เหมือนกัน อากาศร้อนบราๆๆ ฟิล์มน้ำมันบางบราๆๆ แต่มีสมาชิกในเวบนี้ใช้0w-20ไปถึงแสนโลแล้วนะครับ อย่างน้ำมันเบรคDot3อาจมีคนแย้งว่ามันใช้ได้เหมือนกัน แต่ทำไมบริษัทเบรคระดับโลกพยายามพัฒนานำ้มันDot4หรือ5.1ดีๆเพื่อใช้กับระบบESPโดยเฉพาะละครับ มันชวนให้คิดครับแสดงว่ามันต้องมีอะไรที่แตกต่างกัน ถ้าผมทนใช้Dot3+4ที่ศูนย์ทำมาแล้วไปเกิดอะไรขึ้นESPทำงานช้าไป1ในหมื่นวินาที(อันนี้ผมมั่ว)ผมจะกลับมาบอกยังไงละครับ  O0

available

  • ชั่วโมงขับสองหมื่นไมล์
  • ****
  • กระทู้: 353
    • ดูรายละเอียด
Re: เช็ค40000กับเรื่องที่ต้องระวัง
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: May 03, 2015, 12:31:57 »
ถ้า Subaru จะขายรถในไทยให้มากขึ้นแบบคนทั่วไปก็ซื้อใช้ได้  ศูนย์ก็ต้องมีมาตรฐานมากขึ้นสำหรับลูกค้าทั่ว ๆ ไปที่มาถึงศูนย์ก็เปลี่ยนตามศูนย์บอก  หากไม่แก้ไขคนทั่วไปก็ลังเลที่จะซื้อมาใช้นะครับ เพราะคนไทยยังพิจารณาศูนย์บริการเป็นปัจจัยในการซื้อรถด้วย   ???

ถูกต้องครับผม  :respected: เรื่องบางเรื่องศูนย์พยายามจะsave costมากเกินไป อย่างน้ำมันเฟืองท้ายผมว่าใช้สังเคราะห์ดีหน่อย แล้วไปถ่ายที่40000โลเลยน่าจะดีกว่าถ่ายทุก10000(หัวน๊อตถ่ายไม่เยินเพราะหมุนเข้าออกๆด้วย) หลายๆคันที่ใช้น้ำมันศูนย์เฟืองท้ายก็หอนไปแล้ว แต่คนที่เอาน้ำมันไปเองยังไม่เห็นจะหอน ไม่ได้ฟันธงว่าพังเพราะน้ำมันศูนย์นะครับแต่มันชวนให้คิด

อย่างเรื่องที่ศูนย์ไม่ให้ใช้น้ำมัน0w-20ก็เหมือนกัน อากาศร้อนบราๆๆ ฟิล์มน้ำมันบางบราๆๆ แต่มีสมาชิกในเวบนี้ใช้0w-20ไปถึงแสนโลแล้วนะครับ อย่างน้ำมันเบรคDot3อาจมีคนแย้งว่ามันใช้ได้เหมือนกัน แต่ทำไมบริษัทเบรคระดับโลกพยายามพัฒนานำ้มันDot4หรือ5.1ดีๆเพื่อใช้กับระบบESPโดยเฉพาะละครับ มันชวนให้คิดครับแสดงว่ามันต้องมีอะไรที่แตกต่างกัน ถ้าผมทนใช้Dot3+4ที่ศูนย์ทำมาแล้วไปเกิดอะไรขึ้นESPทำงานช้าไป1ในหมื่นวินาที(อันนี้ผมมั่ว)ผมจะกลับมาบอกยังไงละครับ  O0

   ::) เอาจริงๆแล้วศูนย์เองก็น่าจะมีตัวเลือกให้ลูกค้าบ้าง (หลากหลายยี่ห้อ) ว่าต้องการในส่วนของเหลวประเภทไหนและมีการแนะนำช่วงระยะการใช้งานของน้ำมันแต่ละประเภทอย่างถูกต้อง ซึ่งการเปลี่ยนของเหลวบางอย่างตามหลักการแล้วถ้าใช้ของมีคุณภาพที่เหมาะสมกับรถจริงๆและใช้เกรดมาตรฐานที่ถูกต้อง (ไม่ใช่มาตรฐานที่กำหนดขึ้นเองอย่างปัจจุบัน ::เศร้า:: ) เชื่อว่าจะทำให้รถลดการสึกหรอและเสื่อมสภาพจากการใช้งานมากขึ้นหลายๆอย่างที่ว่าทางตัวแทนจำหน่ายพยายามลดต้นทุนโดยการใช้ของที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐานแต่อาศัยการเปลี่ยนบ่อยมากขึ้น :อายจัง:  ซึ่งถ้ามองตัวอย่างจาก นมค.ที่ตัวรถเองระบุว่าให้ใช้เกรดน้ำมัน 0W20 แต่ทางตัวแทนจำหน่ายอ้างว่าเนื่องจากประเทศไทยเมืองร้อนจึงให้ใช้เกรดที่สูงขึ้น แต่หลักความเป็นจริงก็คืออุณหภูมิภายในเครื่องยนตร์มีอุณหภูมิสูงกว่าภายนอกอยู่แล้วไม่ว่าจะใช้เกรดน้ำมันเครื่องเกรดไหนก็ตาม  :แว้ดๆๆ: ซึ่งอีกหลายๆอย่างเช่นน้ำมันเฟืองท้ายเกรดของ XV ที่ใช้งานคือ 75W-90 คู่มือเองมีระยะเวลาเปลี่ยนนานพอสมควรแต่ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายอยู่เรื่อยๆเนื่องจากการใช้งานของเกรดน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตฐานที่ตั้งไว้  :-X  ซึ่งถ้าใช้เกรดที่สูงขึ้นระยะการใช้งานก็จะเพิ่มขึ้นตาม (แต่ก็จะไม่ได้มีการเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลตามที่ศูนย์เปลี่ยนอยู่ในปัจจุบัน) และมาตรฐานของนำมันเบรคก็เช่นกัน ตามมาตรฐานทั่วไปในส่วนของน้ำมันเบรคจะมีการเติมข้ามรุ่นกันไม่ได้เช่น DOT 3 ไป DOT 4 เพราะถ้ามีการเติมก็ต้องเป็นรุ่นเดียวกันและยี่ห้อเดียวกันเท่านั่นเพราะคุณสมบัติของสารเคมีของแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน (ตามหลักการ) ซึ่งการเติมสามารถใช้เบอร์เดียวกันได้ส่วนจะเบอร์อะไรนั่นจะระบุอยู่ที่บริเวณจุดเติมน้ำมันเบรค แต่แนะนำให้เติมมาตรฐานสูงสุดที่รถรุ่นนั่นๆรองรับได้...ในกรณีที่มีการเปลี่ยนในระบบทั้งหมด(อันนี้ขอไม่พูดถึงหลักการอีกหลายๆข้อซึ่งมันจะเยอาะพอสมควร)
    ลองชั่งใจดูครับส่วนนึงเอง User อย่างเราๆท่านๆก็ต้องมีความรู้อยู่พอสมควร ไม่ได้บอกว่าให้เรามีความรู้เหมือนช่าง เท่าช่าง แต่อยากให้ศึกษาไว้บ้างเชื่อขนมกินได้อย่างนึงว่าสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ก็คือ "ประสบการณ์" ลองเอาจากประสบการณ์ของคนอื่น ตัวเองที่ผ่านมาตัดสินดูครับ ของบางอย่างมันไม่ได้เสียกันง่ายๆถ้ารู้จักใช้ รู้จักวิธีเลือกใช้อย่างถูกต้อง... ถือว่าเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์กันครับ
     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: May 03, 2015, 12:42:36 โดย available »