แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - nitiwatk

หน้า: [1] 2
1
แกลเลอรี่ / XV Taxi!
« เมื่อ: January 30, 2015, 11:08:59 »
ไหนๆก็ออกสีเหลืองมาแล้วเอามาทำแท๊กซี่ซ่ะเลย







เป็นแค่ Marketing Event นะครับรับส่งคนขึ้นไปเล่นสกี จริงๆบ้านเราเอาสีเขียวมาทาครึ่งล่างก็ออกหาผู้โดยสารได้เลย


#t=29



Credit:
http://www.subaru.jp/event/2015/gelandetaxi/
http://carview.yahoo.co.jp/news/event/20150126-10217481-carview/

2
มีใครเคยใช้บริการบ้างครับมีที่ไหนแนะนำเห็นหลายที่เค้ามาทำที่บ้าน จอดรถไว้รถคันข้างเปิดประตูมาโดน

ว่าจะเคลมรอบคันแต่ไปถามศูนย์แล้วใช้เวลา 2 อาทิตย์

3
แกลเลอรี่ / 2015 Subaru Impreza Sport
« เมื่อ: November 30, 2014, 20:34:24 »
พอดีหาข้อมูลเรื่องไฟหน้าเลยมาเจอ Impreza Sport ตัว minor change วางขายแล้วที่ญี่ปุ่นและอเมริกา น่าจะพอเป็นแนวทางได้ว่า XV minor change จะไปแนวไหน เท่าที่ฟังจากรีวิวเครื่องยนต์เหมือนเดิมแต่ปรับปรุงในส่วนการเก็บเสียงเพิ่มขึ้น ส่วน model ญี่ปุ่นมี S-I Drive มาให้แต่ไม่มี X-Drive เหมือน Forester

รูปจาก subaru.co.jp
























4
หลังจากที่ดองมานานเพราะไม่ค่อยได้อยู่บ้านเลยไม่มีโอกาสได้ฟังจริงๆจังๆ ซักที ขอออกตัวก่อนว่าปกติไม่ได้เล่นเครื่องเสียงและยิ่งเครื่องเสียงรถยนต์แล้วจะฟังที่ติดรถมาเพราะไม่อยากยุ่งกับระบบไฟฟ้าของรถ (เกือบออก CX-5 ไปแล้วเพราะตอนไปลองเค้าเอารุ่น 2.5 ที่มีชุดลำโพง Bose มาให้ลองขับ)

ก่อนจะไปถึงเรื่องชุดลำโพงผมได้ upgrade head unit จาก Kenwood DNX5310BT เป็น DNX5330BT ซึ่งฟังก์ชั่นเหมือนกันต่างแค่มี Bluetooth เพิ่มเข้ามา ผมให้ช่างที่ศูนย์ช่วยเปลี่ยนให้ก่อนออกรถแล้วตัวเก่าก็ขายให้น้องเซลไป แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาใช้สายเหมือนเดิมเพราะเสียงไม่ดี เฮ้อแล้วจะเสียตังทำไมเนี่ย ตอนนี้ก็เริ่มจะหงุดหงิดเพราะเจ้า touchscreen ตอบสนองช้าเหลือเกิน ผมเล็งๆ Pioneer รุ่นที่ support CarPlay ไว้ไม่รู้จะเข้าบ้านเราเมื่อไหร่อาจจะต้องเปลี่ยนอีกรอบ ถ้าใครจะ upgrade ตัว head unit ตอนนี้มีรุ่นใหม่เป็น DNX5350BT



Pioneer AVIC-8000NEX



DNX5350BT





เข้าเรื่องเลยแล้วกันครับหลังจากได้ขับมาได้ซักพักเสียงจากลำโพงที่ติดมากับรถนี่แย่กว่ารถคันเก่าอีกเลยลองหาดูว่าพอจะปรับปรุงอะไรได้บ้าง ค้นหาข้อมูลไปมาก็ไปเจอชุด upgrade ที่เป็น OEM ของ Subaru America ซึ่งผลิตโดย Kicker ซึ่งก็พอจะได้ยินชื่อเสียงอยู่บ้างแต่ไม่เคยฟังมาก่อนว่าออกแนวไหน

ชุดอัพเกรดนั้นมีทั้่งหมด 3 ชุดคือ

Tweeter คู่หน้า Part Number: H631SFJ100



ชุดลำโพง 6 นิ้ว 4 ตัว Part Number: H631SFJ000



และ Power Subwoofer Part Number: H630SFJ100) อันนี้ไม่ได้สั่งมาด้วย



ทั้งสองชุดผมสั่งมาจากร้าน Subaru Part HQ บน ebay http://stores.ebay.com/Subaru-Parts-HQ/Speakers-Sound-/_i.html?_fsub=6983002010&_sid=67947980&_trksid=p4634.c0.m322

ด้วยความที่เป็น OEM จึงมีปลั๊กต่อมาเรียบร้อยไม่ต้องตัดต่อสายไฟ จริงๆแล้วดูตามคู่มือก็ไม่น่ายากที่จะเปลี่ยนเองแต่ผมให้ช่างที่ศูนย์ช่วยเปลี่ยนให้ซึ่งเค้าก็คิดค่าแรงตามราคาปกติ

เทียบกันด้านซ้ายเป็นลำโพงที่ติดรถมากับด้านขวาเป็นตัว upgrade







สรุป

เสียงที่ได้หลังจากการเปลี่ยนลำโพงนั้นดีขึ้นอย่างฟังได้ชัดได้รายละเอียดมากขึ้นและดีขึ้นอีกหลังจาก burn-in ไปซักระยะนึงแต่เสียงเบสยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ซึ่งก็พอจะคาดเดาได้เพราะลำโพงขนาดแค่ 6 นิ้วแต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ชอบเสียงเบสอะไรมากมายแค่นี้ก็ฟังได้แล้วครับ กำลังเล็งๆ subwoofer ที่เอาไว้ใต้เบาะอยู่แต่คงยังไม่ติดเร็วๆนี้

ค่าใช้จ่ายทั่งหมดรวมค่าขนส่งและติดตั้งอยู่ที่ประมาณหมื่นกลางๆครับไม่รวม Head Unit ผมไม่รู้ว่าชุดลำโพงเทียบเท่าราคาเท่าไหร่ถ้าไปเปลี่ยนตามร้านเครื่องเสียงรถยนตร์ทั่วไป ถ้าพอจะรู้จักร้านที่ฝีมือดีๆทำงานเนี๊ยบหน่อยอาจจะถูกกว่านี้แต่ส่วนตัวค่อนข้างกลัวเพราะรถคันเก่าที่บ้านหลายปีมาแล้วไปติดเครื่องเสียงมาระบบไฟรวนไปหมด เลยเลือกจะสั่งของที่เป็น OEM ครับ

5
หายไปนานครับด้วยภาระกิจการงานที่ทำให้ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน พอดีมีเวลาว่างอยู่ 2-3 วันเลยลองเปลี่ยนหลอดไฟหรี่ LED ที่ซื้อมาไว้สักพักแล้วแต่ไม่มีเวลาเปลี่ยนซักที ปกติเป็นคนไม่ชอบแต่งรถ มันมาจากโรงงานยังไงก็ไม่เคยไปแต่งอะไรไม่รู้เป็นอะไรกับคันนี้อยากเปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่......

เรื่องมีอยู่ว่าไปเห็นรูปเจ้า Levorg ที่ขายในญี่ปุ่นแล้วเห็นไฟหน้ามันสวยดี มาดูไฟรถเราลองหาหลอดมาเปลี่ยนดูว่ามันจะเป็นไงบ้าง

Subaru Levorg



ลองหาข้อมูลดูก็มาเจอสมาชิกที่ Clubcrosstrek.com เค้าเปลี่ยนแค่หลอดไฟหรี่เป็นหลอด LED สีขาวของ Osram Sylvania Premium White LED Light 6000K เบอร์ 168/194/2825 ลองหาดูไม่เห็นมีขายในบ้านเราเลยต้องสั่งจาก ebay ตามเคย ราคาประมาณหลอดละ 11$ ถ้าใครรู้ว่าซื้อได้ที่ไหนก็ช่วยบอกด้วยแล้วกันครับเผื่อท่านอื่นอยากได้



คราวนี้ถึงขั้นตอนการเปลี่ยนครับ ถ้าดูตามคู่มือวิธีการเปลี่ยนค่อนข้างจะลำบากเอาการคือต้องหมุนพวงมาลัยไปในทิศทางตรงกันข้ามของหลอดที่ต้องการจะเปลี่ยนจากนั้น ถอดสลัก 3 ตัวตรงบังโคลนซุ่้มล้อแล้วรื้อออกมาจึงจะเข้าถึงชุดไฟหน้าเพื่อทำการเปลี่ยนหลอด ผมลองทำวิธีนี้แล้วแต่ไม่กล้าดึงบังโคลนออกเห็นเป็นแผ่นบางๆเสี่ยงต่อการเสียหายเลยลองหาวิธีใหม่ก็มาเจอว่าสามารถเปลี่ยนจากด้านบนได้เลยลองดู

วิธีการถอดบังโคลนจากคู่มือ



อุปกรณ์

- ไขขวงแบนเอาแบบที่ยาวๆ

- ถ้าเป็นคนมือใหญ่อาจจะต้องให้คนที่มือเล็กหน่อยมาช่วย

ขั้นตอนการถอด

เปิดฝากระโปรงรถแล้วเอาไม้ค้ำฝากระโปรงอยู่ในช่องเสียบตำแหน่งล่างสุดหัวจะได้ไม่ไปโดนและเพื่อความปลอดภัยควรจะถอดสายขั้วลบออกจากแบตเตอรี่

มองหาสลักพลาสติกสีดำสองตัวตามรูป



เอาไขควงแบนเสียบไปที่ช่องว่างระหว่างวงกลมด้านในและด้านนอก จากนั้นงัดวงกลมด้านในขึ้นมา ขั้นตอนนี้ค่อยๆทำนะครับอย่าใจร้อนระวังอย่าให้สลักพลาสติกหล่น



จากนั้นเอาที่ครอบออก ค่อยๆเอาออกนะครับเพราะวัสดุเป็นกระดาษอัด



ก้มลงไปมองจะเห็นขั่วไฟสีขาวตามรูป



เอาไขควงแบนใส่เข้าไปในช่องที่เราเปิดเอาไว้ดันไปจนสุดด้านท้ายของขั้วไฟ หมุนทวนเข็มนาฬิกานิดเดียวจนรู้สึกว่าขั้วไฟหลุดออกจากโคม



ค่อยๆดึงตัวขั่วไฟออกมาทางด้านข้างจากนั้นทำการเปลี่ยนหลอดโดยดึงขึ้นมาตรงๆ จากนั้นเอาหลอด LED เสียบไปแทนที่



จากนั้นทดสอบเปฺิดไฟดูว่าติดหรือเปล่าจากนั้นก็เอากลับเข้าที่โดยย้อนวิธีการข้างต้นครับ จากนั้นก็ไปทำอีกข้างนึงเป็นอันเสร็จเรียบร้อย



ก่อนเปลี่ยน



ตอนนี้ผมกลับไปใส่ไฟเดิมแล้วครับเพราะเวลาเปิดไฟหน้ามันไม่เข้ากันคงต้องหาหลอดขาวมาเปลี่ยนหลอดไฟต่ำและไฟสูง ใครพอจะแนะนำได้หรือเปล่าเอาแบบที่ไม่ไปแยงตาชาวบ้านเค้า

เป็น DIY เล็กๆสนองความซนของตัวเองครับ ผมแนบรายการเบอร์หลอดไฟที่ใช้ใน XV ทั้งหมดมาให้ด้วยหรือดูในคู่มือติดรถก็ได้ครับ









6
จากโพสทูเดย์ครับ เผื่อใครอยากจะลอง รถพวกเราซ่อมกันทียาวๆ

http://bit.ly/1x1xTzB

โดย สาธิต บวรสันติสุทธิ์

ช่วงก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน ผมรู้สึกจะค่อนข้างโชคไม่ค่อยดี มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย วันอาทิตย์นึงกำลังขับรถออกจากซอยอยู่ดีๆ ก็มีรถเบ๊นซ์ขับสวนเลน ทำให้เราซึ่งคอยระวังแต่รถทางขวาเลยไม่ทันเห็นชนเข้าอย่างจัง แต่เนื่องจากรถเราเป็นฝ่ายถูก ก็เลยยังโชคดีในโชคร้ายไม่ต้องเสียค่าซ่อมรถ แต่เพราะความเสียหายที่มาก และต้องรออะไหล่นาน กว่ารถจะซ่อมได้เสร็จก็ปาเข้าไป 28 วัน ทีนี้ไอ้ 28 วันที่ไม่มีรถนี่สิ เราก็ยังต้องเดินทางมาทำงานอยู่ ไปกลับวันนึงก็ประมาณ 500 บาท 28 วัน ก็14,000 บาท โอ้ แม่จ้าว ซวยจริงๆ อยู่ดีๆ ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มถึง 14,000 บาท

แต่ก็ยังโชคดีในโชคร้าย (อีกหล่ะ) พอดีมีน้องที่อยู่บริษัทประกันภัยแนะนำว่า “พี่ติดต่อไปที่บริษัทประกันของรถเบ็นซ์ที่ผิด เรียกร้อง ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมสิ เรามีสิทธินะ” ผมก็เลยหู ตาสว่าง และดำเนินการเรียกร้องทันที ได้เงินมา 10,000 บาท แม้จะไม่ได้เงินถึง 14,000 บาทก็ดีกว่าไม่ได้ครับ

หลายท่านคงอยากรู้แล้วสิครับ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม คืออะไร ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม คือ ประโยชน์ของผู้ใช้รถที่ถูกละเมิดที่หลายคนไม่เคยเรียกจากการถูกคู่กรณีชน (กรณีเราต้องเป็นฝ่ายถูกเท่านั้นนะครับ) ซึ่งโดยทั่วๆไป บริษัทประกันจะให้เราเอารถไปซ่อมกับอู่ของประกัน แล้วก็จบๆกันไป แต่ไม่เคยบอกเราเรื่อง ค่าขาดประโยชน์ฯ เลย เหตุผลที่ไม่บอก ก็เพราะบอกแล้ว หากเราเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ฯ บริษัทประกันก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

แล้วบางท่านก็สงสัย ก็แล้วทำไมบริษัทประกันฝ่ายเราถึงไม่เรียกร้องค่าขาดประโยชน์ฯให้เราหล่ะ เรื่องการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์นี้ ไม่เกี่ยวกับบริษัทประกันฝ่ายเราครับ เป็นเรื่องที่เราต้องเรียกร้องเอาเอง บริษัทประกันฝ่ายเราทำหน้าที่เพียงแต่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุเท่านั้น

ทีนี้ ถ้าเราจะเรียกร้อง ค่าขาดประโยชน์ฯ ต้องทำอย่างไรบ้าง (ย้ำนะครับว่า เราต้องเป็นฝ่ายถูกเท่านั้น)

1.     อันดับแรก หลังจากเฉี่ยวชนเรียกประกันมาเคลียร์แล้ว ให้ถ่ายรูป

–     สภาพรถของเราและคู่กรณีหลังอุบัติเหตุ

–     ใบเคลมที่ประกันคู่กรณีออกให้ว่าเป็นของที่ไหน เบอร์อะไร

–     กรมธรรม์ประกันรถของคู่กรณี

2.     เอาใบเคลมของประกันฝ่ายเราเข้าซ่อมในศูนย์หรืออู่ในเครือ ก่อนให้อย่าลืมถ่ายเอกสารไว้

3.     เมื่อรถซ่อมเสร็จ ขอสำเนาเอกสารรายการซ่อม และใบรับรถส่งรถที่มีวันที่ชัดเจน

ขั้นตอนเรียกค่าขาดประโยชน์ฯ

1.     โทรหาประกันคู่กรณี แจ้งเลยว่าจะยื่นเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม

2.     fax หรือส่งเอกสารดังต่อไปนี้ให้ประกันคู่กรณี

1.     ใบเคลม

2.     ใบแจ้งซ่อม ใบรับรถจากอู่

3.     รูปรถที่เกิดอุบัติเหตุ

4.     สำเนาทะเบียนรถ

5.     สำเนาบัตรประชาชน

6.     หนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ที่ผมใช้จริง(ตัวอย่างข้างล่าง) หากมีเส้นทางแน่นอนต้องเขียนแผนที่เดินทางด้วย

เรียนผู้จัดการฝ่ายราคา บริษัท *****ประกันภัย จำกัด

เนื่องจากในวันที่ ******* กระผมได้ขับรถยนต์ยี่ห้อ *** ทะเบียน ****  เดินทางออกบ้านโดยผ่าน ถนน ****** ขณะนั้นมีรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ทะเบียน ******* ได้ขับรถสวนเลนจราจร ทำให้รถของข้าพเจ้าได้ชนกับรถดังกล่าว และทราบว่าคู่กรณีนั้นได้ทำประกันรถยนต์กับ บริษัท **** ประกันภัย จำกัด ซึ่งเป็นฝ่ายผิด จึงทำให้รถยนต์กระผมเกิดความเสียหายเป็นจำนวน 4 รายการ (ตามเอกสารแนบ)

ซึ่งรายการอะไหล่ดังกล่าวนั้น ต้องทำการสั่งซื้อและมีระยะการรออะไหล่ รวมถึงการซ่อมแซมประกอบและรวมถึงทำสี จึงทำให้กระผมขาดการใช้ประโยชน์จากรถยนต์เป็นเวลาทั้งสิ้น 28 วัน (นับจากวันที่เกิดอุบัติเหตุ ***** ถึงวันที่รับรถ *****)  ซึ่งธุรกรรมประจำวันผมมีการใช้รถยนต์ทุกๆวันจึงเกิดค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยกระผมขอชี้แจ้งธุรกรรมประจำวันดังรายละเอียดดังนี้

1. กระผมต้องขับรถมาทำงานเป็นประจำนั้น ซึ่งจาก **** มาทำงานที่ บริษัท ***** จำกัด(มหาชน) ที่ถนน **** โดยกระผมจากเดิมขับรถไปทำงาน จึงต้องอาศัยแท็กซี่ในการเดินทาง

2. กระผมเป็นหัวหน้าครอบครัว ซึ่งในวันหยุดกระผมและทางครอบครัวจะมีการใช้จ่ายเพื่อซื้อของเข้าบ้าน ซึ่งการซื้อของเข้าบ้านกระผมก็ใช้รถยนต์ในการเดินทาง

ดังนั้นในการดำเนินชีวิตของกระผม จะมีการใช้รถยนต์เพื่อทำธุรกรรมต่างๆ โดยเห็นได้ชัด กระผมจึงใคร่ขอทาง ผู้จัดการฝ่ายราคา บริษัท ****ประกันภัย จำกัด  พิจารณาค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์ของกระผม จากหนังสือ ฉบับนี้ด้วย

ขอแสดงความนับถือ

(นาย สาธิต บวรสันติสุทธิ์)

หลังจากส่งเอกสารแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของประกันคู่กรณีโทรมาติดต่อและต่อรอง ก็แล้วแต่เราต่อรองนะครับ หลังจากนั้นประมาณ 7 วันก็จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีหรือรับเป็นเช็ค (อันนี้แล้วแต่บริษัทประกันนะครับ)

รู้อย่างนี้แล้ว ครั้งหน้าหากเจออุบัติเหตุ และเราเป็นฝ่ายถูก อย่าลืมเรียก ค่าขาดประโยชน์ฯนะครับ

7
ถามตอบปัญหา / กระจกมองหลัง
« เมื่อ: September 07, 2014, 21:45:48 »
ปกติผมปรับเบาะค่อนข้างสูงเพราะขายาว ถ้าปรับให้เตี้ยลงเข่าจะชันนิดนึงซึ่งทำให้เมื่อยมาก (ซึ่งตอนนี้ก็ยังเมื่อยอยู่) พอปรับเบาะสูงก็มาเจอเรื่องกระจกมองหลังอีกเพราะมันระดับเดียวกับสายตาและถ้าขับกลางคืนก็โดนไฟรถหลังส่องเต็มๆ จริงๆแอบบ่นว่าจะติดให้มันสูงหน่อยก็ไม่ได้จนเริ่มทนไม่ไหวกะว่าจะหากระจกตัดแสงมาใช้งานหาไปหามาก็เริ่มเอะใจ เพราะดูจากรูปมันมีส่วนที่ปรับสูงต่ำได้อีกนอกจากปรับเงยหรือคว่ำ เลยลองกลับไปดูที่รถปรากฏว่าก็มีเหมือนกัน โง่อยู่ตั้งนานตอนนี้ขับสบายตาขึ้นเยอะแต่ยังปวดหลังอยู่

เพื่อนๆหลายท่านอาจจะทราบแล้วแต่ผมเพิ่งมาค้นพบวันนี้เลยมาแชร์ให้ฟังเผื่อหลายคนที่ยังไม่ทราบครับ

ผมติดพาร์ทนัมเบอร์มาด้วยเผื่อใครอยากจะลองสั่งมาใช้ดู วิธีการติดตั้งก็ไม่ยากราคาประมาณ 135 USD แต่เห็นใน ebay ขายอยู่ที่ 105 USD ครับ

http://www.subarugenuineparts.com/product_info.php?products_id=1963
 
ขอติดรีวิวชุด upgrade ลำโพงไว้ก่อนเพราะช่วงนี้ยุ่งเหลือเกิน ร่างไว้แล้วครับขอเวลาอีกหน่อยจะรีบมาลงให้



8
ตามกระทู้ http://www.subaruxvthailand.com/forum/index.php?topic=211.0 หลังนำรถเข้าศูนย์เสรีไทยไปตั้งแต่วันที่ 24/5/57 ในที่สุดก็ซ่อมเสร็จและไปรับรถมาเมื่อวานครับ หลังจากเลื่อนวันส่งรถไปสองรอบ จะมาแชร์ให้ฟังนะครับจะได้ทำใจ.... เอ้ยเตรียมใจถ้าจะต้องนำรถเข้าเคลมอุบัติเหตุครับ

หลังจากเข้าเคลมไปเดือนแรกลองโทรไปสอบถามความคืบหน้าและขอทราบขั้นตอนการเคลมเลยได้ข้อมูลมาประมาณนี้ครับ ขั้นตอนแรกก็เป็นเรื่องของประกันครับ ทางศูนย์จะทำการตรวจสอบว่ามีชิ้นส่วนไหนจะต้องเปลี่ยนหรือต้องซ่อมทำสีจากนั้นทางประกันจะเข้ามาดูรถและอนุมัติการซ่อม ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์

จากนั้นจะส่งไปทำสีและสั่งอะไหล่ที่ไม่มีในสต๊อกที่เมืองไทยไปทางสำนักงานใหญ่ Motor Image ที่สิงคโปร์ จากนั้นทางสิงคโปร์จะทำการสั่งอะไหล่จาก Subaru ที่ญี่ปุ่นอีกทีครับ ทางมาเลเซียเป็นโรงงานประกอบอย่างเดียว ขั้นตอนนี้ละครับที่ใช้เวลาเพราะถ้าส่งอะไหล่ทางเครื่องบินจะใช้เวลาประมาณ 2-4 อาทิตย์ ถ้าทางเรือก็ประมาณ 4-8 อาทิตย์

ทางศูนย์เสรีไทยเล่าให้ฟังว่าได้ส่งเรื่องไปทาง Motor Image ที่สิงคโปร์ให้สต๊อกอะไหล่ตัวถังมากขึ้นเพราะจำนวน XV ที่ขายได้ในบ้านเราค่อนข้างเยอะพอสมควรและมีปัญหารออะไหล่ในกรณีเคลมอุบัติเหตุ ทางศูนย์ยกตัวอย่างเช่น ปีกนก (ซึ่งดวงดีมากจะต้องเปลี่ยนด้วย) นั้นไม่ได้สต๊อกไว้เนื่องจากรถยังใหม่ยังไม่ค่อยมีเสียและยังมีอะไหล่ช่วงล่างและอื่นๆอีกหลายตัวที่ไม่ได้สต๊อกไว้

ทางอู่ทำสี (หลายท่านคงทราบว่า Motor Image ไม่มีแผนกทำสีเป็นของตัวเอง) ก็จะเบิกอะไหล่ไปเปลี่ยนและทาง Motor Image จะทำการตรวจสอบคุณภาพก่อนส่งมอบให้ลูกค้า ซึ่่งขั้นตอนนี้ก็โชคดีอีกคือมีการเบิกอะไหล่เพิ่มเติมเลยต้องรอสั่งอะไหล่รอบสอง ทางช่างบอกมาว่าทาง Motor Image Thailand ใช้อู่สี ASS Motor Sport แถวรามอินทรา เห็นว่าซ่อมกันมานาน

ผมมีทั้งเรื่องติและชมครับสำหรับทางศูนย์เสรีไทย คือขอชมว่าอธิบายได้ครบถ้วนผมไม่มีคำถามเรื่องขั้นตอนและระยะเวลาการซ่อมและสั่งอะไหล่ ทำใจไว้แล้วตั้งแต่ก่อนซื้อรถว่าถ้าต้องซ่อมมีต้องรอแน่นอน (แต่สองเดือนครึ่งก็นานพอดูขาดไปอีกอาทิตย์ก็ 3 เดือนพอดี!) ที่ขอติคือน่าจะมีการอัพเดตเป็นระยะในกรณีซ่อมนานเอาแค่เดือนละครั้งก็พอ

ตอนแรกว่าจะแนบรายการอะไหล่และราคามาด้วยเอาไว้เป็นข้อมูลแต่ทางศูนย์ไม่ได้ให้อะไรมาเลยไม่แน่ใจว่าปกติเค้าต้องมีรายการซ่อมให้เราหรือเปล่าไอ้เราก็ลืมถามเพราะต้องรีบไปและไม่เคยเคลมประกันมาก่อนเลย แต่รายการที่มีเปลี่ยนแน่ๆคือ ฝากระโปรง, แก้มหน้า, กันชน, ไฟหน้า, ไฟตัดหมอก, กระจกมองข้าง, ปีกนก

งานซ่อมสีก็ใช้ได้ครับแต่ด้านในรถสกปรกนิดนึงเห็นว่าอู่ ASS Motor Sport นี่ซ่อมสีพวกซูปเปอร์คาร์ด้วยไม่ทราบว่ามีใครเคยมีประสบการณ์กับอู่นี้รึเปล่า

ส่วนรีวิวเรื่องลำโพงที่ค้างไว้จะตามมาเร็วๆนี้ครับ ขอไปขับให้หายคิดถึงก่อน


9
น่าจะพักนึงมาแล้ว เอามาฝากครับไม่รู่ว่าเคยเห็นกันหรือยัง


10
แกลเลอรี่ / รีบไปหน่อย
« เมื่อ: August 01, 2014, 10:32:32 »
CR: clubcrosstrek.com

11
เอามาฝากครับเพิ่งอ่านเจอเมื่อเช้า

http://www.manager.co.th/Motoring/viewNews.aspx?NewsID=9570000080074

12
วันนี้ขับรถไปในซอยรามคำแหงผ่านหน้าเซเว่นพอดีมีรถจอดริมถนนเปิดประตูออกมาโดยไม่ได้ดูรถเราที่ขับมาเลยซัดประตูเข้าไปความเสียหายเป็นอย่างที่เห็นครับ โชคดีมากที่ไม่มีใครเป็นอะไรอารมณ์เสียดายเพราะได้รถมายังไม่ถึง 2 เดือนดี แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีมิตรภาพที่ดีครับทางคู่กรณีก็ขอโทษเพราะเค้าไม่ได้ดูจริงๆ รถเค้าก็เพิ่งโดนขโมยกระจกมองข้างไปสองข้างเลยทำให้ไม่ได้มองรถเรา ผมก็คิดซ่ะว่ามันเป็นอุบัติเหตุครับคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ก่อนลากันผมก็บอกว่าพี่โชคดีครับ พี่เค้าก็ขอโทษที่ทำให้เราลำบาก นี่ถ้าเจอคู่กรณีแบบที่คิดว่าตัวเองถูกตลอดคงจะเสียความรู้สึกมากกว่านี้ บางครั้งแค่คำว่าขอโทษก็เปลี่ยนสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ครับ

พรุ่งนี้จะไปเคลมที่ศูนย์เสรีไทยคงต้องรออะไหล่อีกพักใหญ่ทำใจไว้แล้วครับได้ความว่ายังไงจะมาบอกน่ะครับ

ขับรถปลอดภัยครับ


13
ไปอ่านกระทู้จาก http://clubcrosstrek.com/index.php/topic,1590.0.html

เห็นว่าน่าสนใจและคิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับสำหรับท่านที่กำลังตัดสินใจซื้อ

ผมขอลอกหัวข้อจาก clubcrosstrek ล่ะกันครับ ช่วยๆ กันแชร์ประสบการณ์จะได้มีเพื่อนร่วมถนนเยอะๆ

ใช้ XV มาเป็นเวลา:

สิ่งที่ชอบ:

สิ่งที่ไม่ชอบ/อยากให้มี:

ปัญหาที่เจอ/วิธีการแก้ไข:

ผมขอเริ่มเป็นคนแรกล่ะกันครับอาจจะใช้รถมาไม่นานแต่ก็ขอแชร์จากประสบการณ์ตรงครับ

ใช้ XV มาเป็นเวลา: 2 เดือน

สิ่งที่ชอบ:

- การออกแบบเห็นครั้งแรกก็สะดุดตา
- ช่วงล่างดีเกาะถนน
- ขับสนุก
- อัตราเร่งใช้ได้
- วงเลี้ยวแคบ
- รถค่อนข้างคล่องตัวไม่รู้สึกว่าขับรถสูง
- ศูนย์ใกล้บ้าน (เสรีไทย)
- ไม่ใช่รถตลาด

สิ่งที่ไม่ชอบ/อยากให้มี:

- ช่วงล่างค่อนข้างแข็ง (อาจจะยังไม่ชินเนื่องจากย้ายมาจากรถซีดาน) ตอนนี้ลดลมยางเหลือ 27-28 ก็ดีขึ้นหน่อย
- เสียงเข้าห้องโดยสารเมื่อขับด้วยความเร็วเกิน 100 กม ขึ้นไป น่าจะมาจากยางติดรถที่เป็นกึ่งเรียบกึ่งลุย
- เสียงเตือนรัดเข็มขัดที่ปวดประสาท
- เบาะค่อนข้างเมื่อย (ผมสูง 174) แต่ตอนนี้ดีขึ้นหลังปรับเบาะและพวงมาลัยอยู่นาน
- จะดีมากถ้ามีที่ซัพพอร์ทหลังส่วนล่าง (lumbar support)
- อยากให้มีเบาะไฟฟ้า

ปัญหาที่เจอ/วิธีการแก้ไข:

- เสียงลมเข้าด้านคนขับเมื่อวี่งที่ความเร็วเกิน 120 กม. รอแก้ตอนเข้าเช็ค 5,000 โล

15
DIY & FAQs / XV Accessories Catalog
« เมื่อ: April 25, 2014, 10:58:28 »
ตามที่สัญญาไว้ครับ พยายามรวบรวมมาเท่าที่จะหามาได้ในส่วนที่เป็น Genuine Subaru Accessories เผื่อจะเป็นไอเดียในการแต่งรถครับ

ได้ชุด upgrade ลำโพงมาแล้วจะไปติดที่ศูนย์เสรีไทยวันเสาร์นี้ครับ พร้อมเช็ค 1000 กิโล (เกินมา 800 กิโลเพราะรอไอ้เจ้าลำโพงนี่แหละ) ติดเสร็จยังไงจะมารายงานครับ


หน้า: [1] 2