สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน ผ่านช่วงกระทู้เครียดกันมาละวันนี้มีเวลาว่างประจวบเหมาะกับรื้อห้องเลยขอถ่ายรูปโชว์กันหน่อยขอตั้งกระทู้ขั้นตอนการล้างรถที่ถูกวิธีให้สมาชิกวัยเก๋าและรุ่นเก่าทั้งหลายได้อ่านกันดีกว่า ออกตัวก่อนนะครับว่าไม่ได้มีความชำนาญการด้านนี้เท่าไหร่นักแต่อาศัยด้วยความใจรักและชอบลองผิดลองถูกพอสมควร เลยมีทั้งผิดหวังกับสมหวังบ้าง 555ซึ่งสมาชิกหลายๆท่านก็คงมีประสบการณ์พอๆกันหรือไม่อาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ถือว่าเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้
ขั้นตอนแรกสิ่งที่ต้องมีพื้นฐานสำหรับการล้างรถด้วยตนเอง
- มีใจรัก พร้อมลุย พร้อมเหนื่อย พร้อมเสียสละแรงงานกายและใจ
- มีเวลา พอสมควรเพราะรถหนึ่งคันถ้าล้างจริงๆทั้งภายใน ภายนอก ใช้เวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมง
- อุปกรณ์ อันนี้แล้วแต่ว่าจะแสวงหาในท้องตลาดทั้งราคาเริ่มต้นและระดับที่เหล่าเทพใช้งานกันอยู่
อุปกรณ์พื้นฐานที่ควรมี
- น้ำสะอาด ไม่ต้องจากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติก็ได้ อันนี้ขอให้เป็นแหล่งน้ำสะอาดเป็นพอ
- น้ำยาล้างรถ แชมพูล้างรถ เอายี่ห้อทั่วๆไปที่มีขายอยู่ในท้องตลาดทั่วไปๆหรือตามงบประมาณก็แล้วแต่ แนะนำเอายี่ห้อดีๆหน่อยเพราะจะทำให้รถแววใสได้ส่วนนึง
- ฟองน้ำ ตัวหนอน ถุงมือล้างรถ (อย่างใดอย่างนึง) แนะนำอย่าเสียดายเงินในส่วนนี้เพราะส่วนนี้คือส่วนที่สัมผัสรถมากที่สุดซื้อของดีๆหน่อย
- ถังน้ำ 2 ถังและสายยางสำหรับล้างรถจะได้ไม่เหนื่อยมากสายยางให้ยาวพอที่สามารถล้างรถรอบคันได้และถังน้ำต้องสะอาด ไม่ควรถูกนำไปใช้ในงานอื่นซึ่งอาจมีสารเคมีตกค้างและละลายเข้าไปในน้ำยาล้างรถจนเกิดผลเสียต่อผิวรถหรือชั้นแว๊กซ์ได้
- ผ้าเช็ดรถจำนวน 4 ถึง 5ผืน (ประกอบด้วยผ้าเช็ดภายใน ภายนอก เช็ดล้อ เช็ดส่วนล่าง และผ้าเช็ดส่วนบน) ซึ่งผ้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการใช้ผ้าประเภทไหนแนะนำถ้าใช้สำหรับ
เช็ดภายนอก เช็ดแห้งใช้ผ้า Microfiber ขนาดใหญ่หน่อยก็จะซับน้ำได้ดีสำหรับซับน้ำหลังล้างแนะนำแบบผ้า waffle weave หรือไม่ก็ผ้าชามัวร์ ที่มีคุณภาพดีๆก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นเดียวกัน ส่วนผ้าอื่นๆก็ไม่แตกต่างกันแต่สำคัญต้องแยกใช้ตามลักษณะการใช้งานและห้ามใช้ร่วมกัน
- แปรงล้างล้อและฟองน้ำทำความสะอาดล้อทั้ง 4 ล้อค่อยๆทำทีละล้อ
- ชุดอุปกรณ์บำรุงรักษารถอันนี้ก็แล้วแต่ว่าจะตั้งงบประมาณไว้เท่าไหร่ ซึ่งแนะนำว่าควรจะมีสัก3-4อย่างเช่น
ชุดบำรุงรักษาภายนอก WAX น้ำยาเคลือบต่างๆ น้ำยาล้างกระจก
ชุดบำรุงรักษาภายใน น้ำยาเคลือบเบาะ ทำความสะอาดเบาะ
ชุดบำรุงรักษายาง
....
แล้วก็มาเริ่มขั้นตอนการล้างรถกันเลย
เริ่มต้นการล้างรถแนะนำให้ทำการฉีดน้ำไปยังตัวถังรถด้านบนสุด ไล่ลงมาเรื่อยๆ เพือทำการไล่ฝุ่นที่ติดอยู่กับตัวรถออกโดยขั้นตอนแรกให้ฉีดน้ำให้ทั่วทั้งคันจากด้านบนลงด้านล่างจนถึงล้อ โดยการเลี้ยงน้ำไว้ประมาณ 10 นาทีและทำการฉีดล้างอีกรอบโดยรอบที่สองที่ทำการฉีดล้างให้เอามืออีกข้างค่อยๆลูบเอาเศษฝุ่น เศษดินเล็กๆออกซึ่งการล้างครั้งแรกเพื่อให้เศษฝุ่น ดินที่เกาะอยู่ออ่นตัวและล้างง่ายขึ้น (ประมาณนึงว่าเหมือนสาวๆโดนมือแล้วตัวออ่นประมาณนั่น) ล้างให้ทั่วรอบๆคันโดยมีหลักการล้างน้ำและลูบดังนี้ (การลูบขยันล้างมือด้วยเพราะจะมีเศษฝุ่น ทรายติดที่มือ)
-ส่วนบนสุดหรือหลังคา
-กระจกหน้าและหลัง
-ฝากระโปรง
-ด้านข้าง ตอนบนโดยเว้นชายล่างไว้
และทำการล้างชายล่างโดยทำการล้างเฉพาะส่วนที่เป็นชายล่างเป็นพิเศษโดยการเลี้ยงน้ำไว้เรื่อยและล้างส่วนที่เป็นชายล่างลงมาโดยที่ไม่ต้องเอามือไปลูบส่วนอื่นๆ ซึ่งตรงนี้ต้องใช้น้ำเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา เมื่อล้างชายล่างเสร็จขั้นตอนสุดท้ายคือล้างล้อทั้ง 4 ล้อซึ่งจะใช้หลักการเดียวกัน
เติมน้ำสองถังถังแรกสำหรับน้ำเปล่า ถังที่สองสำหรับน้ำยาล้างรถ โดยการล้างก็เริ่มการล้างตามขั้นตอนด้านบนเช่นเดียวกัน โดยใช้การล้างจากด้านบน ลงมาเรื่อยๆ โดยการถูเป็นแนวตรงตามทิศทางการไหลของลมเวลารถวิ่ง และอย่าใช้แรงกดมากนักเพราะแรงกดมากๆไม่ได้แปลว่ารถจะสะอาดขึ้น ล้างรถพยายามล้างเสร็จทีละส่วน และที่สำคัญสุดระวังอย่าให้รถแห้งพราะจะทำให้เกิดรอยน้ำได้ ล้างเป็นส่วนๆ แล้วนำถุงมือ ฟองน้ำที่ใช้หรือ ผ้ามาล้างในถังน้ำอีกถัง สังเกตว่ามีเศษ ทรายอะไรบ้างไหมถ้ามีให้ทำการเปลี่ยนน้ำ (น้ำเปลี่ยนยิ่งบ่อยยิ่งดี)
แนะนำ... ในการล้างรถแนะนำให้มีชุดฟองน้ำ ตัวหนอน ถุงมือล้างรถ(อย่างใดอย่างนึง) สองชุดเพื่อป้องกันการเกิดรอยชุดแรกใช้สำหรับล้างส่วนบน หลังคา ฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงหลัง และกระจกรถทั้งหมด
ชุดที่สอง ใช้ล้างด้านล่างของตัวรถ ตั้งแต่ขอบกระจกด้านล่างลงมา
ผืนสุดท้าย ใช้สำหรับทำความสะอาดล้อ และส่วนอื่นที่สกปรกมาก ซึ่งชุดที่สามใช่ผ้าทั่วๆไปก็ได้ไม่จำเป็นต้องใช้ของราคาสูงมากนัก....ล้างล้อและยางโดยทำการล้างในส่วนของยาง
(
เหตุผลที่ต้องแยกเนื่องจาก โดยทั่วไปส่วนบนของรถจะมีฝุ่นน้อย ในขณะที่ด้านส่วนล่างของรถมีฝุ่นมาก)
เมื่อล้างรถด้วยน้ำยาเสร็จจทั้งคันให้เปิดน้ำจากสายยางล้างรถให้ทั่วโดยการล้างจากด้านบน(หลังคา) เช่นเดิมโดยไล่ลงมาเรื่อยๆและใช้ผ้าสำหรับเช็ดรถเช็ดทำความสะอาด โดยก่อนเช็ดรถให้นำผ้าดังกล่าวไปแช่น้ำและบิดหมาดๆเพื่อนำมาเช็ดรถการเช็ดรถห้ามทำการลากกับตัวรถแนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดของการเช็ดรถคือการวางผ้าลงตรงๆเหมือนกับการซับน้ำแล้วเอาผ้าขึ้น โดยการแบ่งพื้นที่การซับน้ำ ซึ่งถ้าผ้าที่มีคุณสมบัติที่ดีในการซับน้ำขั้นตอนนี้จะเสร็จไวมาก ส่วนการเช็ดรถต้องทำการเช็ดตามขั้นตอนดังนี้
กระจกทั้งหมดก่อนเป็นอันดับแรก
หลังคา
ประตู ฝากระโปรงหน้า และส่วนอื่นๆต่อไป
ข้อไม่ควรทำสำหรับการล้างรถ
-ไม้ปัดขนไก่ อันนี้ของต้องห้าม(ห้ามใช้โดดเด็ดขาด)โดยมากแล้วเรามักเผชิญกับปัญหาเรื่องฝุ่นอยู่เสมอไม่ว่าจะในเมืองหรือต่างจังหวัด และคนจำนวนไม่น้อยมักจะนำไม้ปัดขนไก้ที่มีขายอยูทั่วไปมาปัดเช็ดฝุ่นออก ด้วยความเข้าใจที่มีตั้งแต่ดั้งเดิมซึ่งไม้ปัดดังกล่าวใช้ในการทำความสะอาดบ้าน
ความจริงแล้วแล้วไม้ปัดขนไก่อาจจะเป็นทางออกที่ดีเพราะสามารถขจัดฝุ่นได้ดีและรวดเร็ว แต่ทราบหรือไม่ว่า ขนไก่เมื่อรวมกับฝุ่นที่บ้างอาจเป็นเม็ดทรายสามารถทำให้เกิดริ้วรอยไว้ที่ชั้นแล็คเกอร์ ซึ่งทำให้รถของท่านเป็นรอยขนแมวและยากที่จะขัดออก
-ผงซักฟอก-น้ำยาล้างจาน...เลิกใช้มาล้างรถ อย่างผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจาน ทำให้เรามักคิดว่ามันสามารถเอามาล้างรถได้นั้น นับว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันอย่างมาก และแม้เวลาผ่านไปเราก็ยังเห็นพฤติกรรมเช่นนี้เป็นประจำ ที่บางคนทำสืบทอดต่อกันมา แม้การล้างรถคือการทำความสะอาดรถยนต์เหมือนๆกับจานหรือเสื้อผ้า แต่สิ่งที่แตกต่างนั้นคือเราต้องการล้างรถเพื่อให้เงางาม ไม่ใช่ให้สะอาด ซึ่งการที่เรานำน้ำยาล้างจานหรือฝงซักฟอกผสมน้ำมาล้างรถนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากสารทำความสะอาดทั้ง 2 ชนิดนั้นล้วนต้องการขจัดคราบอย่างเข้มข้น ซึ่งเมื่อเรานำมาล้างรถจะทำให้เกิดการชะล้างในส่วนของ WAX เคลือบชั้นแล็คเกอร์ออกไป ซึ่งทำให้สีรถจะดูหมองไม่เงาเงาม และในอนาคตยังอาจทำให้ชั้นแล็คเกอร์เสื่อมสภาพไวอีกด้วย
-เสื้อผ้าเก่าๆ...อย่านำมาเช็ดแห้ง หลายคนมักนำเสื้อผ้ามาใช้ในการเช็ดแห้งรถยนต์ด้วยความเข้าใจว่า มันจะสามารถซับน้ำได้เหมือนกัน ทั้งที่จริงๆแล้ว ผ้าถึงจะทำหน้าที่ได้เหมือนกัน แต่ให้ความแตกต่างที่สามารถทิ้งรอยไว้หลังเช็ดเสร็จ ซึ่งในความจริงอย่างแย่สุดคุณควรหาซื้อผ้าสำลีมาใช้งาน
-ไม่ควรล้างรถในตอนเย็น เพราะหากล้างแล้วจอดทิ้งไว้อาจทำให้เกิดสนิมในจุดที่เราเช็ดไม่แห้ง เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีเครื่องเป่าน้ำให้แห้ง หรือไม่ก็ต้องยอมเปลืองน้ำมันเอารถออกไปขับไกล ๆ ให้ลมช่วยทำให้ทุกซอยทุกมุมแห้งสนิท
-ไม่ควรล้างรถกลางแดด เพราะนอกจากคนล้างอาจไม่สบายได้แล้ว แสงแดดจะทำให้น้ำแห้งเร็วจนเช็ดไม่ทัน ซึ่งอาจทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวสีรถได้
-ไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรถแทนการล้างรถ เพราะจะเป็นการทำลายสภาพสี ผงฝุ่นต่างๆ ที่ติดบนผ้าจะทำให้เกิดรอยขนแมวยิ่งเช็ดรถมากครั้งขึ้นเท่าไหร่ การเกิดรอยก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
.....การล้างรถที่ดีทำให้เกิดการเกิดขนแมวน้อยลงและเป็นการรักษารถไปในตัว ขอให้มีความสุขกันทุกท่าน